สารคดีสัตว์โลกตัวน้อย แมงมุม

5 อันดับแมงมุมอันตรายในไทยที่ไม่ควรเข้าไกล้

ปัจจุบันในเมืองไทยมีแมงมุมอาศัยอยู่ทั่วทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นในบ้าน ในบ้าน หรือตามที่สาธารณะ อาหารของแมงมุมมักจะเป็นจำพวกสัตว์เล็ก หรือสัตว์ที่เลี้ยงลูกด้วยนมจำพวกหนู แต่ด้วยสายพันธุ์ของแมงมุมนั้นมีจำนวนมากและขยายพันธุ์มากขึ้นเรื่อยๆ แมงมุมพิษก็มีหลากหลายชนิดหลากหลายสายพันธุ์ บางคนไม่ทราบว่าแมงมุมชนิดไหนบ้างที่มีพิษร้ายแรง ถ้าโดนกัดเข้าอาจจะได้รับอันตรายถึงกับต้องสูญเสียอวัยวะเลยก็มี ทำให้ผู้คนส่วนใหญ่ต่างแตกตื่นกับสิ่งที่ได้รับรู้มาเกี่ยวกับแมงมุม เพราะเหตุนี้ต้องระมัดระวังและอยู่ไกลจากแมงมุมเข้าไว้เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายและควรเรียนรู้เกี่ยวกับสายพันธุ์ของแมงมุมไว้ด้วย

แมงมุมพิษไม่ใช่ว่ามีแต่ต่างประเทศเท่านั้น ภายในประเทศไทยของเราก็มีเช่นเดียวกัน  ซึ่งพิษของแมงมุมที่อยู่ในไทยจะว่าไปคงไม่ต่างอะไรกับพิษของงู ที่มีอนุภาพสามารถทำลายระบบประสาทและกล้ามเนื้อได้ ถ้าหากได้รับพิษที่รุนแรงก็สามารถถึงแก่ชีวิตได้เช่นกัน

แมงมุมพิษส่วนมากเรามักจะเจอในป่า ที่ชื้น  อบอ้าว แม้แต่อาคารบ้านเรือนแมงมุมยิ่งชอบถ้าบ้านไหนไม่อยากให้มีสิ่งที่อันตรายอาศัยในบ้านก็ต้องหมั่นทำความสะอาดเพื่อป้องกันการอยู่อาศัยของสัตว์ชนิดนี้ด้วย

5 อันดับแมงมุมพิษในไทย มีชนิดไหนบ้าง

1. แมงมุมแม่ม่ายสีน้ำตาล แมงมุมสายพันธุ์นี้ชอบอาศัยอยู่ตามที่บริเวณรกๆ เช่นเพดานไม้ที่ไม่มีการทำความสะอาด ไต้ถุนบ้าน ใต้บันได โรงไม้ ในรองเท้าเก่าๆ ถ้าคุณโดนแมงมุมชนิดนี้กัดขึ้นมา พิษของมันจะทำให้คุณปวดแสบปวดร้อน ชาหรือตึง บริเวณที่โดนกัด พิษของมันมีผลทำลายระบบประสาทของคุณได้อย่างดี
2. แมงมุมพิษสีน้ำตาล แมงมุมนี้จะเป็นคนละสายพันธุ์กับแมงมุมแม่ม่ายสีน้ำตาล สายพันธุ์นี้มักอาศัยอยู่ในถ้ำที่อบอ้าว หรือร้อนชื้น ถ้าโดนกัดไปแล้วบริเวณที่คุณโดนกัดจะอักเสบ มีแผลเหวอะหวะ พิษจะเข้าไปทำลายระบบไหลเวียนของโลหิต
3. แมงมุมแม่ม่ายหลังแดง แมงมุมชนิดนี้จะอาศัยอยู่ตามโพรงในดิน ถ้าหากโดนกัดบริเวณที่โดนจะมีรอยแดงเกิดขึ้นเป็นจ้ำๆ มีอาการร้อนเหมือนโดนไฟลวกที่บริเวณนั้นๆ
4. แมงมุมเขี้ยวยาว หากโดนแมงมุมชนิดนี้กัดจะมีอาการปวดบวมบริเวณที่โดน จะเกิดอาการโลหิตเป็นพิษ และสามารถอาจจะติดเชื้อบาดทะยักได้
5. แมงมุมแม่ม่ายสีดำ ลักษณะอาการจะคล้ายๆกับแมงมุมแม่ม่ายสีน้ำตาล แต่จะมีอาการแทรกซ้อนขึ้นมาอีกคือ พิษของมันจะเข้าไปทำลายกล้ามเนื้อจุดกระบังลม อาจจะทำให้เกิดอาการเกร็งจนกล้ามเนื้อหัวใจหยุดทำงานได้